หากพูดถึงประวัติศาสตร์เม็กซิโกยุคปฏิวัติ คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ผู้พ่อ” ของการปฏิวัติอย่างฟรานซิสโก มาเดโร (Francisco I. Madero) ชายผู้ท้าทายอำนาจเผด็จการของ โพร์ฟิริโอ ดิอาซ (Porfirio Díaz) และจุดประกายความหวังให้กับประชาชนเม็กซิกันในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรม
มาเดโร เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยในเมืองซาโกลเดอมีโก (Parras, Coahuila) เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 1873 เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและได้รับ השכלהดีเยี่ยมในด้านวิชาการ การเมือง และเศรษฐศาสตร์
มาเดโร มีความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากผู้ปกครองประเทศในเวลานั้น เขาต้องการให้เม็กซิโกเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตย, เศรษฐกิจที่เป็นธรรม, และสังคมที่เท่าเทียมกัน ในขณะที่ดิอาซ ซึ่งปกครองประเทศมาเกือบ 35 ปี มีนโยบายเผด็จการ ข่มเหงประชาชน และทุจริตในระบบราชการ
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ มาเดโร จึงเริ่มต้นรณรงค์เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งที่เป็นธรรมและยุติการปกครองเผด็จการของดิอาซ
มาเดโร: จากนักธุรกิจสู่ผู้นำปฏิวัติ
ในปี ค.ศ. 1910 มาเดโร ได้ตีพิมพ์หนังสือชื่อ “La Sucesión Presidencial de 1910” (การสืบทอดอำนาจประธานาธิบดี ค.ศ. 1910) หนังสือเล่มนี้วิจารณ์ระบบการเมืองของดิอาซอย่างรุนแรงและเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งที่เป็นธรรม
หนังสือของมาเดโร ได้สร้างกระแสความตื่นตัวและได้รับความสนใจจากประชาชนเม็กซิกันจำนวนมาก ซึ่งในขณะนั้นต้องการการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เขาได้กลายเป็นผู้นำในการต่อสู้กับ chế độเผด็จการของดิอาซ
เมื่อมาเดโรถูกจับกุมในช่วงต้นปี ค.ศ. 1910 เขาได้หลบหนีออกจากคุกและเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เขาได้ประกาศ “แผนซานลูยส์” (Plan de San Luis) ขอให้ประชาชนเม็กซิกันลุกขึ้นมาต่อต้านดิอาซ
การปฏิวัติเม็กซิโก:
เมื่อข่าวของ “แผนซานลูยส์” เผยแพร่ไปทั่วประเทศ เม็กซิโกร้อนระอุด้วยการต่อสู้ ประชาชนจากทุกมุมของประเทศต่างลุกขึ้นมาต่อต้าน chế độเผด็จการของดิอาซ การปฏิวัติเม็กซิโกได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเต็มตัว
มาเดโร กลับเข้ามาในเม็กซิโก และได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากประชาชน
หลังจากการต่อสู้ที่รุนแรงและยาวนาน ดิอาซก็ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีในที่สุด
ผลงานของมาเดโร:
เมื่อมาเดโรขึ้นสู่อำนาจเป็นประธานาธิบดีเม็กซิโกในปี ค.ศ. 1911 เขาได้ริเริ่มการปฏิรูปหลายอย่างเพื่อนำประเทศไปสู่ความเจริญ
-
การปฏิรูประบบเลือกตั้ง: มาเดโร ได้ริเริ่มการเลือกตั้งที่เป็นธรรมและให้สิทธิ์แก่ประชาชนในการมีส่วนร่วมทางการเมือง
-
การปฏิรุปด้านเศรษฐกิจ: มาเดโร ได้ริเริ่มนโยบายเพื่อกระจายความมั่งคั่ง และส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
-
การปฏิรูปด้านสังคม: มาเดโร ได้ริเริ่มนโยบายเพื่อให้ความเท่าเทียมกันแก่ประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเชื้อชาติ ศาสนา หรือเพศ
สภาวะการณ์หลังการขึ้นสู่อำนาจของมาเดโร:
แม้ว่ามาเดโร จะพยายามอย่างเต็มที่ในการนำประเทศไปสู่ความเจริญ แต่สถานการณ์ในเม็กซิโกก็ยังคงไม่สงบ มีกลุ่มต่อต้านที่ไม่พอใจกับการปฏิรูป และต้องการโค่นล้มมาเดโร
ในที่สุด มาเดโร ก็ถูกนายทหารคนสนิทของเขาเอง คือ วิคตอร์ยานูเอซ (Victoriano Huerta) ลอบสังหารเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1913
การลอบสังหารมาเดโร เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมืองเม็กซิโกที่กินเวลายาวนานกว่าทศวรรษ
มรดกของมาเดโร:
แม้ว่ามาเดโร จะถูกฆ่าตายในวัยเพียง 40 ปี แต่ความคิดและอุดมการณ์ของเขาก็ยังคงมีอิทธิพลต่อประชาชนเม็กซิกันมาจนถึงปัจจุบัน
มาเดโร ถือเป็น “ผู้พ่อ” ของการปฏิวัติเม็กซิโก และเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและประชาธิปไตย
ตารางแสดงช่วงเวลาสำคัญในชีวิตมาเดโร
ช่วงเวลา | เหตุการณ์ |
---|---|
30 ตุลาคม ค.ศ. 1873 | มาเดโร เกิด |
ค.ศ. 1910 | เผยแพร่หนังสือ “La Sucesión Presidencial de 1910” |
ค.ศ. 1911 | ลุกขึ้นสู้ และขึ้นสู่อำนาจเป็นประธานาธิบดีเม็กซิโก |
22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1913 | ถูกสังหาร |
มาเดโร ยังคงเป็นตัวอย่างให้กับประชาชนทั่วโลกที่ต้องการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและเสรีภาพ